#กล้ามเนื้อหนีบเส้นประสาทคืออะไร #ปวดก้นไม่ใช่เรื่องเล็ก นั่งทำงานเพลินเกินไปอาจทำให้เกิดอาการปวดสะโพกร้าวลงขา ปล่อยไว้อาจเรื้อรังและรุนแรงทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อหนีบเส้นประสาทได้ วันนี้มารู้จักอาการและโรคกล้ามเนื้อหนีบเส้นประสาทกันค่ะ
อาการกล้ามเนื้อหนีบเส้นประสาทมีสาเหตุมาจาก
- ชอบนั่งไขว้ห้าง หรือนั่งถ่ายน้ำหนักลงสะโพกข้างเดียว
- นั่งทำงานนานๆ (ช่วงทำงานที่บ้านแบบนี้ต้องไม่ลืมขยับตัวเปลี่ยนท่าทางกันบ้างนะคะ)
- ขับรถนานๆ
- ออกกำลังกายหนักเกินไป เช่น การวิ่ง
- ยกของหนัก/ยกผิดท่า
ส่งผลให้มีอาการดังต่อไปนี้
- ปวดก้น ปวดสะโพก
- ปวดแก้มก้น
- ปวดร่วมกับชาร้าวลงมาทางขา
- รู้สึกร้อนวูบวาบ บริเวณก้น
การรักษาเบื้องต้น
- ทานยาคลายกล้ามเนื้อหรือยาลดอักเสบ จะได้ผลดีในช่วงแรกหากเริ่มมีอาการปวดตึงกล้ามเนื้อไม่มาก สามารถทานยาเพื่อลดอาการปวดตึงของกล้ามเนื้อได้
แต่ทำไมบางคนทานยามานาน อาการปวดก็ไม่ดีขึ้น
เพราะฤทธิ์ของยาจะช่วยบรรเทาอาการเพียงชั่วคราวเท่านั้นหากแต่กล้ามเนื้อ piriformis ที่มีปัญหายังคงมีความตึงตัวบีบรัดเส้นประสาทอยู่ อย่างต่อเนื่องอาการปวดร้าวนี้จะยังไม่หายไป
การรักษาทางกายภาพบำบัดกับเราจึงเป็นทางเลือกสำหรับการรักษาอาการปวดตึงกล้ามเนื้อเนื่องจากที่รีแฮปแคร์คลินิกใช้เครื่องมือกายภาพนำเข้าจากยุโรปด้วยเทคโนโลยีลดปวดล่าสุด
- เครื่องช๊อกเวฟแบบโฟกัสทั้งพลังงานคลื่นกระแทกแบบดอทและแบบเส้นตรง ลงบริเวณกล้ามเนื้อที่มีความตึงตัว
- เครื่องอัลตราซาวน์ความร้อนลึกลดปวด
- เครื่องเลเซอร์พลังงานสูงเพื่อเติมพลังงานให้เซลล์และลดการอักเสบของเส้นประสาท
- พร้อมการจัดโปรแกรมออกกำลังกายและปรับโครงสร้างร่างกายเพื่อให้หายอย่างถาวรไม่กลับมาบาดเจ็บซ้ำ
รู้อย่างนี้แล้ว อย่านั่งทำงานกันเพลิน ลุกขึ้นยืดเหยียดกล้ามเนื้อกันบ้างนะค้า
หรือชื่อทางการแพทย์ว่า Piriformis Syndrome เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากกล้ามเนื้อก้นมัดลึก เรียกว่า กล้ามเนื้อ Piriformis ตึงไปกดทับเส้นประสาท Sciatic nerve ที่ออกมาจากกระดูกสันหลังส่วนเอว แล้วทอดผ่านใต้กล้ามเนื้อมัดนี้ เพื่อส่งสัญญาณประสาทไปเลี้ยงขา จึงทำให้เกิดอาการปวดร้าวลงขา บางคนอาจมีอาการชา และอ่อนแรงได้
1. ประคบอุ่นบริเวณสะโพกที่มีอาการปวด 15-20 นาที ความรู้สึกคืออุ่นสบาย
2. นั่งบนเก้าอี้ ยกขาข้างที่ปวดขึ้นตามภาพ ถ้ายังไม่รู้สึกตึงให้ก้มตัวลงไปเรื่อยๆจนรู้สึกตึงแต่ไม่เจ็บ ค้างไว้ 15-20 วินาที ทำซ้ำ 5 รอบ
3. นอนหงายยกขาข้างที่ปวดมาไว้อีกข้าง ใช้มือจับหัวเข่าและดึงลงมาตามภาพ จนรู้สึกตึงที่ก้นแต่ไม่เจ็บ มืออีกข้างยกขึ้นจับหัวเตียง หัวไหล่ทั้ง 2 ข้างแนบกับพื้น ยืดค้างไว้ 15-20 วินทาที ทำซ้ำ 5 รอบ
4. นอนหงายชันเข่าทั้ง 2 ข้าง ไขว้ขาข้างที่ปวดขึ้นเป็นเลข 4 ตามภาพ จากนั้นใช้มือทั้ง 2 ข้างจับใต้เข่าข้างที่ไม่ปวดแล้วดึงขาให้ชิดอกจนรู้สึกตึงที่ก้นแต่ไม่เจ็บ ยืดค้างไว้ 15-20 นาที ทำซ้ำ 5 รอบ (ไม่ยกศีรษะหรือหัวไหล่ขึ้น)
5. ยกขาข้างที่ปวดขึ้นวางบนเก้าอี้ โต๊ะ หรือเตียง ตามภาพถ้ายังไม่รู้สึกตึงที่ก้น ให้ก้มตัวลงจนรู้สึกตึงแต่ไม่เจ็บค้างไว้ 15-20 วินาที ทำซ้ำ 5 รอบ
6. ใช้ Foam Roller วางไว้ที่ก้นข้างที่ปวด จากนั้นใช้น้ำหนักตัวกดลงและเลื่อนโฟมขึ้น - ลง เพื่อคลายกล้ามเนื้อที่มีอาการตึงตามภาพ
7. ใช้ลูกเทนนิสวางไว้ที่ก้น บริเวณที่มีอาการปวด จากนั้นใชน้ำหนักตัวกดลงและเลื่อนลูกเทนนิส เพื่อคลายกล้ามเนื้อที่มีอาการตึงตามภาพ
***ท่าการยืดเหยียดกล้ามเนื้อข้างต้นเป็นการดูเเลเบื้องต้นที่จะช่วยบรรเทาอาการตึงของกล้ามเนื้อ หากมีอาการปวดมาก แนะนำให้มาพบนักกายภาพบำบัดเพื่อรักษาอาการปวดให้ทุเลาลงโดยใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัดเช่น เครื่องเลเซอร์พลังงานสูง (High power laser) เครื่องอัลตราซาวด์ก่อนค่ะ***
สอบถามเพิ่มเติมที่ "รีแฮป แคร์ คลินิก"
ที่อยู่ : 423 ถนนเพชรเกษม แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. (อยู่ในศูนย์กีฬากันอริ ก่อนถึงซีคอนบางแค) ? 061-801-2482 Line ID : @rehabcare